สาเหตุการเกิดรังแค

รังแค เป็นหนึ่งในปัญหาผิวหนังที่ทุกคนต้องเคยประสบมาไม่มากก็น้อย โดยเฉพาะคนที่อยู่ในวัยรุ่น วัยหนุ่มสาว ซึ่งตัวการที่ทำให้เกิดรังแค คือ เชื้อราชนิดหนึ่งที่มีชื่อว่ามาลาสซีเซีย ในบทความนี้เราจะพาทุกคนไปทำความรู้จักกับเจ้าเชื้อราชนิดนี้กันว่ามันเติบโตอย่างไร และทำไมมันถึงเป็นสาเหตุการเกิดรังแค

เชื้อรามาลาสซีเซีย คืออะไร

เชื้อรามาลาสซีเซีย เป็นยีสต์ชนิดหนึ่งที่อยู่บนผิวหนังของมนุษย์ทุกคน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในบริเวณรูขุมขนที่อุดมไปด้วยไขมัน เช่น หนังศีรษะ เชื้อราชนิดนี้สามารถเจริญเติบโตได้ดียิ่งขึ้นในสภาพผิวที่มีความอุ่นชื้น โดยเชื้อรามาลาสซีเซีย จะทำหน้าที่ในการดูดซึมน้ำมันที่มาจากต่อมรากผม และต่อมไขมัน เมื่อเชื้อราเติบโตได้เร็ว หรือมีจำนวนเยอะจนเกินไป จะส่งผลให้มีการผลัดเซลล์ผิวหนังที่เร็วผิดปกติ จนเกิดเป็นอาการระคายเคือง และนำมาสู่สาเหตุการเกิดรังแคในท้ายที่สุด นอกจากนี้ยังเคยมีผลวิจัยมาแล้วว่า เชื้อราในสกุลมาลาสซีเซีย ยังเป็นสาเหตุของการเกิดโรคอีกหลายชนิด ไม่ว่าจะเป็นโรคผิวหนัง โรคที่เกี่ยวกับระบบภูมิคุ้มกัน และโรคทางเดินหายใจ เป็นต้น

การค้นพบจีโนมในเชื้อรามาลาสซีเซีย โกลโบซา ที่นำมาเป็นแนวทางการแก้รังแค

แม้ว่าปัญหาของเชื้อรามาลาสซีเซีย จะเป็นสิ่งที่อยู่คู่กับทุกคน ไม่ว่าจะเป็นชายหรือหญิง แต่เมื่อปี 2016 ที่ผ่านมา บริษัทเครื่องสำอางชั้นนำ พรอคเตอร์ แอนด์ แกมเบิล บิวตี้ (Procter & Gamble Beauty) สามารถถอดรหัส DNA ของเชื้อรามาลาสซีเซีย โกลโบซา (Malassezia globosa) ที่เป็นสาเหตุสำคัญของการเกิดรังแคได้สำเร็จ

ความสำเร็จในครั้งนี้ ช่วยให้มนุษย์สามารถเข้าใจธรรมชาติ และกลไกการทำงานของเชื้อรามากยิ่งขึ้น ซึ่งทางทีมนักวิทยาศาสตร์ที่ทำวิจัยได้พบว่าเชื้อรามาสาสซีเซีย โกลโบซา มีความสามารถในการสืบพันธุ์แบบอาศัยเพศ นอกจากนี้เชื้อรา ชนิดนี้ยังมียีนทั้งหมดประมาณ 4,285 ยีน โดยเฉลี่ยแล้วในศีรษะของมนุษย์จะมีเชื้อรา มาลาซีเซีย อยู่ทั้งสิ้นประมาณ 10 ล้านชีวิต ทีมวิจัยยังได้พบว่าเชื้อราชนิดนี้สามารถปล่อยเอนไซม์มากกว่า 50 ชนิด ที่จะทำหน้าที่ในการย่อยองค์ประกอบต่าง ๆ ในศีรษะ และเส้นผม

สาเหตุที่เชื้อรามาลาสซีเซีย โกลโบซา ทำให้เกิดรังแคได้เพราะอะไร

สำหรับสาเหตุที่เชื้อรามาลาสซีเซีย โกลโบซา ทำให้เกิดรังแคได้นั้น ก็เนื่องมาจากเชื้อราชนิดนี้ไม่สามารถสร้างกรดไขมันที่ใช้ในการดำรงชีพเองได้ ทำให้ต้องอาศัยไขมันที่สร้างขึ้นจากร่างกายมนุษย์ ด้วยการปล่อยเอนไซม์ไลเปส เพื่อทำหน้าที่ย่อยซีบัม (Sebum) ไขมันที่สร้างขึ้นจากต่อมไขมันใต้ผิวหนังที่มีคุณสมบัติในการปกป้องผิวหนัง และเส้นผมจากการสูญเสียน้ำ ให้เป็นกรดโอเลอิค (Oleic Acid) ที่เชื้อราสามารถนำไปใช้ดำรงชีพได้ ส่งผลให้เซลล์ผิวหนังเกิดการเสื่อมสภาพเร็วขึ้นจนนำมาสู่อาการของรังแค

ปัจจัยที่เป็นสาเหตุการเกิดรังแค

สำหรับสาเหตุการเกิดรังแคนั้น นอกจากเชื้อรามาลาสซีเซียแล้ว ยังมีหลากหลายสาเหตุ ตั้งแต่ด้านฮอร์โมน      วัยพฤติกรรม ไปจนถึงสภาพอากาศ โดยสามารถแบ่งเป็นปัจจัยภายใน และภายนอก ดังนี้

1. ปัจจัยภายใน

  • วัย: รังแคเป็นปัญหาที่สามารถเกิดขึ้นกับคนได้ทุกวัย โดยส่วนใหญ่จะพบในวัย 20 ปีขึ้นไป และจะค่อย ๆ น้อยลงในวัย 50 ปีขึ้นไป
  • ฮอร์โมน: สำหรับฮอร์โมนที่เป็นสาเหตุของการเกิดรังแค คือ ฮอร์โมนแอนโดรเจน ซึ่งหากมีการหรั่งปริมาณมากจะทำหน้าที่กระตุ้นต่อมไขมันให้ผลิตไขมันมากยิ่งขึ้น ทำให้เชื้อราเจริญเติบโตได้ดี จนทำให้หนังศีรษะอักเสบ และเป็นสาเหตุการเกิดรังแคได้
  • ความเครียด: หนึ่งในปัจจัยที่ส่งผลเสียต่อร่างกายในหลาย ๆ ด้าน โดยความเครียดนั้นจะส่งผลให้ระบบร่างกาย และฮอร์โมนเกิดการเสียสมดุล จนนำมาสู่อาการอักเสบของผิวหนัง หรือส่งผลให้มีอาการศีรษะแห้ง

2. ปัจจัยภายนอก

  • มลภาวะ: สิ่งสกปรกจากมลภาวะที่เผชิญจากข้างนอกในแต่ละวัน อาจทำหน้าที่ในการสะสมสิ่งสกปรกบนหนังศีรษะ จนเกิดอาหารแห้ง คัน ขาดความชุ่มชื้น จนทำให้เกิดรังแคได้
  • อุณหภูมิ: สภาพอากาศเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ทำให้เกิดรังแคเช่นกัน โดยเฉพาะในหน้าร้อนที่เชื้อรา มาลาสซีเซีย โกลโบซา ที่จะเติบโตได้ดีในหน้าร้อน จนทำให้ผู้คนมักประสบปัญหารังแคในฤดูนี้
  • อาหาร: การทานอาหารบางชนิด อาจเป็นสาเหตุการเกิดรังแคโดยไม่รู้ตัว โดยเฉพาะอาหารที่มีกรดไขมัน หรือวิตามินบี ที่ส่งผลต่อการทำงานของต่อมไขมัน จนทำให้เชื้อราเติบโตได้ดีมากยิ่งขึ้น

สรุป

เชื้อรามาลาสซีเซีย เป็นเชื้อราที่อยู่ในมนุษย์ทุกคน และยังเป็นสาเหตุการเกิดรังแคที่สำคัญ ที่จะทำหน้าที่ดูดซึมน้ำมันจากเส้นผมทำหนังศีรษะแห้ง และส่งผลให้เกิดเป็นรังแค นอกจากนี้ปัจจัยที่เชื้อราชนิดนี้เติบโตก็ยังมีหลาย ๆ ปัจจัย ทั้งฮอร์โมน สภาพอากาศ ไปจนถึงอาหารการกิน ดังนั้นการใช้ยาสระผมขจัดรังแค จึงเป็นหนึ่งในสิ่งจำเป็นที่ทุกคนควรใช้เป็นประจำ เพื่อป้องกันปัญหารังแคไม่ให้กลับมาอีก สำหรับใครที่มองหายาสระผมขจัดรังแคที่ใช้แล้วได้ผลดี ขอแนะนำผลิตภัณฑ์ LAB1 ที่ช่วยลดการสะสมของแบคทีเรีย และเชื้อรา พร้อมได้รับการรับรองจากแพทย์ผิวหนังเฉพาะทาง ว่าใช้แล้วเห็นผลจริง

สนใจสินค้าจาก VE:LA สามารถอ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับสินค้าได้เลยที่ VE:LA Skincare

หรือรับข่าวสารเพิ่มเติม ผ่านช่องทาง Facebook ได้เลยที่ VE:LA Facebook Page