ปัญหารังแคกับผู้ชายเรียกได้ว่าเป็นของคู่กัน เป็นปัญหากวนใจที่ส่งผลทั้งด้านสุขภาพผิวหนังไปจนถึงความมั่นใจในการพบปะผู้คน ตัวการการเกิดรังแคจริง ๆ แล้วมีได้หลายสาเหตุหนึ่งในนั้น คือ “เซ็บเดิร์ม” จนเป็นที่มาของแชมพูเซ็บเดิร์มที่วางขายตามท้องตลาดในปัจจุบัน แต่เชื่อว่าหลาย ๆ คนน่าจะสงสัยอยู่ว่าแล้ว เซ็บเดิร์ม มันคืออะไร ส่งผลอย่างไรกับร่างกาย และทำไมถึงต้องมีแชมพูเซ็บเดิร์มโดยเฉพาะ มารู้จักไปพร้อม ๆ กัน
เซ็บเดิร์ม (Sebum) เป็นน้ำมันธรรมชาติที่ผิวหนังของคนทุกคนมีอยู่ มีหน้าที่เป็นการเจือจางความชื้นในผิวหนังและช่วยเก็บรักษาความชุ่มชื้นให้ผิวหน้าเราไม่แห้งมากเกินไป นอกจากนี้ เซ็บเดิร์มยังมีสารป้องกันแสงแดดเล็กน้อยด้วย แต่ถ้ามีการสร้างเซ็บเดิร์มมากเกินไปก็จะทำให้เกิดเป็นโรคเซ็บเดิร์มจนกลายเป็นต้นตอของปัญหารังแค และนำไปสู่การใช้แชมพูเซ็บเดิร์มนั่นเอง
โรคเซ็บเดิร์ม ( โรคผื่นแพ้ต่อมไขมัน )
เป็นโรคผิวหนังที่พบได้ง่ายและมากที่สุดในปัจจุบัน โรคเซ็บเดิร์มแท้จริงแล้วเป็นโรคที่เกิดจากการอักเสบของผิวหนังเรื้อรัง คนส่วนมากจะนิยมเรียกกันในนามของโรคต่อมไขมันอักเสบ พบได้ง่ายตามจุดต่าง ๆ ที่มีเกิดความมันในร่างกาย เช่น ใบหน้า หนังศีรษะ ข้อพับ เป็นต้น เมื่อเกิดความมันจากเซ็บเดิร์มสะสมเป็นจำนวนมาก สิ่งที่พบได้บ่อยตามมาในผู้ที่มีผิวมันหรือผิวมันออกซิเดชั่นมาก คือ เกิดเป็นผื่นแดงบริเวณผิวหนังพร้อมสเก็ตสีขาวหรือเหลือง และมีอาการคันบริเวณดังกล่าวร่วมด้วย แต่สามารถเกิดร่วมจากสาเหตุอื่น ๆ ได้ด้วย เช่น ความเครียด หรือ พันธุกรรม ซึ่งปัจจุบันมีผู้ผลิตแชมพูเซ็บเดิร์มโดยเฉพาะเพื่อรักษาโรคเซ็บเดิร์มโดยตรง ซึ่งปัจจุบันแชมพูเซ็บเดิร์มมีหลากหลายสูตรให้เลือกนำไปใช้
ถ้าเป็นโรคเซ็บเดิร์มบริเวณหนังศีรษะมักจะพบอาการเหล่านี้ร่วม
- เกิดสเก็ตรังแคตามจุดที่มีขนหรือผมขึ้น เช่น หนังศีรษะ บริเวณคิ้วหรือหนวด
- เกิดอาการผมร่วง
- หนังศีรษะมีอาการมันมากกว่าปกติ
- หากเป็นเรื้อรังอาจมีอาการปวดร่วมด้วย
วิธีการดูแลและรักษาหากเป็นโรคเซ็บเดิร์ม
โดยธรรมชาติแล้วเซ็บเดิร์มเป็นโรคที่สามารถหายเองได้ แต่ขึ้นอยู่กับพฤติกรรมการใช้ชีวิต และการดูแลของแต่ละบุคคลด้วย ซึ่งในทางการแพทย์มีข้อแนะนำสำหรับการดูแลและรักษาดังนี้
1. ใช้แชมพูเซ็บเดิร์มช่วยรักษาโดยเฉพาะ
“แชมพูเซ็บเดิร์ม” หรือที่เรียกกันติดปากง่าย ๆ ว่า “แชมพูขจัดรังแค” สามารถหาซื้อได้ตามร้านขายยา หรือ ห้างสรรพสินค้าชั้นนำทั่วไป แชมพูเซ็บเดิร์มโดยส่วนใหญ่มักมีส่วนประกอบยอดนิยมที่ได้ยินกัน คือ คีโตโคนาโซล เพื่อช่วยลดอาการ แต่ก็มีแชมพูเซ็บเดิร์มสูตรอื่น ๆ เช่น มีตัวยาคลอเบทาโซลคลอเบตาโซล ด้วยเช่นกัน
2. น้ำเปล่าสะอาด
สามารถใช้น้ำเปล่าสะอาดในการล้างทำความสะอาดความมันบริเวณดัวกล่าวบ่อย ๆ เพื่อลดความมัน ก็เป็นหนึ่งในวิธีดูแลผิวขั้นพื้นฐานได้เช่นกัน
3. งดใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนประกอบของแอลกอฮอล์กับบริเวณที่มีอาการ
คนส่วนใหญ่จะเข้าใจว่าแอลกอฮอล์สามารถฆ่าเชื้อได้ แต่ทางการแพทย์แล้วไม่แนะนำอย่างยิ่งให้ใช้แอลกอฮอล์ในบริเวณที่มีอาการเซ็บเดิร์ม เพราะจะยิ่งส่งผลเสีย และทำให้อาการลุกลามมากกว่าเดิมได้ แนะนำให้หาแชมพูเซ็บเดิร์มมาใช้จะตรงกับการรักษามากกว่า
4. หากมีอาการแล้ว ห้ามเกาโดยเด็ดขาด
เพราะการเกาจะยิ่งทำให้ผิวหนังเกิดอาการอักเสบมากขึ้น และยิ่งเป็นการช่วยให้เกิดการแพร่กระจายของเชื้อในบริเวณรอบข้างได้ง่าย หากเกิดอาการคันให้ใช้ครีมไฮโดรคอร์ติโซนหรือคาลาไมน์ ทาบริเวณดังกล่าวเพื่อช่วยในการลดอาการคัน หรือแชมพูเซ็บเดิร์มสระร่วมเพื่อประสิทธิภาพที่ดีขึ้น
5. พบแพทย์
หากมีอาการเรื้อรัง เป็น ๆ หาย ๆ ทางที่ดีที่สุด คือ การไปพบแพทย์ผิวหนังเพื่อทำการวินิจฉัยอาการ และปรับตัวยาให้เหมาะสมมากยิ่งขึ้น เช่น การใช้ครีมต้านแบคทีเรีย การทานยาต้านเชื้อรา แชมพูเซ็บเดิร์มสูตรอื่น ๆ หรือหากมีอาการหนักมากแพทย์อาจมีการพิจารณาในการฉายแสงเพื่อรักษาร่วมด้วย
จริง ๆ แล้วโรคเซ็บเดิร์มเป็นโรคที่ใกล้ตัวทุกคนมากกว่าที่คิดใช่ไหมครับ แต่ก็เป็นโรคที่สามารถดีขึ้นได้จากการสังเกตุ และปรับเปลี่ยนพฤติกรรม หรือง่ายกว่านั้นเพียงใช้แชมพูเซ็บเดิร์มหรือแชมพูขจัดรังแคเป็นประจำเพื่อดูแลหนังศีรษะให้มีความชุ่มชื้นเพียงพอ และลดความมันสะสมได้เช่นกัน
สนใจสินค้าจาก VE:LA สามารถอ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับสินค้าได้เลยที่ VE:LA Skincare
หรือรับข่าวสารเพิ่มเติม ผ่านช่องทาง Facebook ได้เลยที่ VE:LA Facebook Page