ใครเคยเป็นสิวหรือกำลังมีปัญหาเรื่องสิวอยู่อาจจะเคยสงสัยว่าใช้สกินแคร์ลดรอยสิวตอนไหนดีถึงจะเห็นผลมากที่สุด เพราะสิวก็อยากหาย รอยดำ รอยแดงก็ไม่อยากให้มี อยากผิวใสเรียบเนียนแบบทันใจ วันนี้เราจะมาบอกต่อเกี่ยวกับเทคนิคการใช้สกินแคร์ลดรอยสิวให้ได้ผลจริง ทำให้ผิวขาวแบบสม่ำเสมอ และยังช่วยลดปัญหาเรื่องสิวที่คอยกวนใจไม่ให้สิวเกิดซ้ำซาก ซึ่งขั้นตอนการดูแลผิวและใช้ยารักษาสิว ครีมบำรุงต่างๆสำคัญมากๆ ทำยังไงให้ครีมที่ทาไปเกิดประโยชน์สูงสุด มาดูกัน
ปัญหาสิวคืออะไร
สิว คือ ผิวหนังที่มีการเปลี่ยนแปลงไปจากสภาวะของรูขุมขนที่เกิดการอุดตันของน้ำมันและเซลล์ผิวที่ตายแล้ว จึงเกิดเป็นสิวขึ้นมา มีลักษณะต่างๆ เช่น สิวหัวช้าง สิวหัวดำ หรือสิวเสี้ยน ซึ่งสิวประเภทต่างๆหากมีการปล่อยไว้นานก็จะกลายเป็นสิวหัวหนองขนาดใหญ่ได้ และยิ่งฝังลึกลงมากกว่าเดิม ทำให้คนที่เป็นสิวนั้นเจ็บปวด และรำคาญใจอยู่บ่อยๆ หากปล่อยไว้นานๆก็อาจจะรักษารอยได้ยากขึ้นด้วยเช่นกัน ใช้สกินแคร์ลดรอยสิวอาจจะไม่เห็นผลเท่าที่ควร และความรุนแรงของสิวก็มีหลายระดับมาก ตั้งแต่ระดับรุนแรงน้อย ก็คือสิวหัวขาว หรือสิวหัวดำ หากมีความรุนแรงปานกลาง ก็จะเป็นสิวหัวหนอง หรือสิวที่มีตุ่มแดง หากเป็นสิวมีความรุนแรงมาก ก็จะเป็นประเภทสิวก้อนลึก หรือสิวซีสต์ได้
6 วิธีการใช้สกินแคร์ลดรอยสิวได้แบบเห็นผล
ก่อนจะมีขั้นตอนของการใช้สกินแคร์ลดรอยสิวแบบเห็นผลได้ ต้องเรียงลำดับการดูแลผิวเสียก่อน เพราะปัญหาสิวเป็นเรื่องที่ต้องละเอียด และใส่ใจ หากดูแล บำรุงผิวแบบผิดอาจจะให้สิวอักเสบ เกิดสิวอยู่บ่อยๆ แล้วยิ่งทำให้เกิดรอยดำ รอยแดงจากสิวมากขึ้นกว่าเดิมอีก เรามาดูแลผิวหน้าที่เป็นปัญหาสิวอย่างถูกวิธีเพื่อลดปัญหาการเกิดรอยสิวตามมาด้วย ซึ่งมีขั้นตอน ดังนี้
- ทำความสะอาดใบหน้า แม้สาวๆจะแต่งหน้าหรือไม่ได้แต่งหน้าก็ตามก็ต้องล้างหน้าให้สะอาด เพื่อกำจัดสิ่งสกปรกออกไปให้หมด ลดการอุดตันของรูขุมขนที่อาจจะเป็นสาเหตุของการเกิดสิว และใบหน้าที่สะอาดตัวครีมบำรุงก็จะซึมได้ดี
- ใช้โทนเนอร์ การใช้โทนเนอร์ก็มีความสำคัญเช่นกัน เพราะเป็นการปรับสภาพผิวให้มีความสมดุล เมื่อล้างหน้าเสร็จให้เช็ดโทนเนอร์ต่อ ซึ่งการเช็ดหน้าด้วยโทนเนอร์ยังเป็นการกำจัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วออกจากใบหน้าอีกด้วย
- ทายารักษาสิว สำหรับคนที่มีปัญหาสิวอยู่และใช้ยารักษาสิวหลายตัว สามารถเริ่มทาได้จากตัวที่เป็นน้ำก่อน หรือทาจากตัวที่มีความเหลวและใสก่อน ค่อยทายาที่มีความเข้มข้นตาม สำหรับการทายาเมื่อเป็นสิวสามารถทาได้ดังนี้
- คนที่เป็นสิวเยอะ หรือสิวหัวหนอง ให้ทายาจากตัวที่เป็นน้ำ หรือมีความเหลวก่อน โดยทาที่เป็นสิวหัวหนองทิ้งไว้ 3-5 นาที หลังจากนั้นค่อยทาในขั้นตอนต่อไป
- คนที่เป็นสิวไม่เยอะ สามารถทายาชนิดครีมที่บริเวณที่เป็นสิวทิ้งไว้ โดยไม่ต้องทาทั่วหน้า
- คนที่มีจุดด่างดำและรอยสิว ขั้นตอนนี้ขอแนะนำสำหรับคนที่หายจากสิวแล้วมีรอยเท่านั้นจึงจะสามารถใช้สกินแคร์ลดรอยสิวได้ โดยทาตามจุดที่เป็นรอยเหมือนยารักษาสิวเลย
- ใช้เอสเซนส์หรือเซรั่ม การใช้เอสเซนส์หรือเซรั่มมาบำรุงผิวจะเป็นการเติมน้ำให้กับชั้นผิว มีความชุ่มชื้นมากขึ้น ให้ผิวหน้าสามารถลดรอย กระจ่างใสขึ้นได้ เนื้อของเซรั่มค่อนข้างที่จะบางเบาสบายผิวแต่ก็มีความเข้มข้นมาก
- ใช้มอยเจอร์ไรเซอร์และครีมบำรุง ขั้นตอนการทามอยเจอร์ไรเซอร์กับการใช้ครีมเข้ามาบำรุงผิวนั้นสำคัญมาก เพราะผิวจะสูญเสียน้ำในขั้นตอนของการทำความสะอาดผิว ดังนั้นจึงต้องใช้ครีมเข้ามาเติมเต็มความชุ่มชื้นกลับสู่ผิว ทำให้ผิวสมดุลขึ้น
- ทาครีมกันแดด หลายๆคนที่เป็นสิวอาจจะงงๆว่ากันแดดสามารถรักษาสิวหรือรอยได้ด้วยหรือซึ่งแท้จริงแล้วกันแดดมีความสำคัญมาก เพราะเป็นการปกป้องผิวจากรังสี UV ไม่ให้ผิวดูหมอง มีรอยที่เข้มขึ้น ผิวหน้าหมองขึ้นนั่นเอง
ขั้นตอนของการดูแลผิวที่เป็นปัญหาสิวนั้นสำคัญมาก อย่าปล่อยปะละเลยเด็ดขาด เพราะหากดูแลไม่ถูกต้อง ปัญหาสิวได้มีมากขึ้นกว่าเดิมเป็นแน่ ยิ่งจะทำให้รอยสิวรักษาได้ยากขึ้นเช่นกัน ดังนั้นการใส่ใจกับขั้นตอนการบำรุงผิว เลือกใช้สกินแคร์ลดรอยสิวแบบถูกที่ ถูกเวลา รับรองสาวๆจัดการปัญหาสิวแบบอยู่หมัดแน่นอน มีผิวขาวใสสม่ำเสมอ แบบลืมไปเลยว่าเคยเป็นรอยมาก่อน
สนใจสินค้าจาก VE:LA สามารถอ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับสินค้าได้เลยที่ VE:LA Skincare
หรือรับข่าวสารเพิ่มเติม ผ่านช่องทาง Facebook ได้เลยที่ VE:LA Facebook Page