หากพูดถึงสาเหตุการเกิดรังแค หลายคนอาจคิดว่าเป็นเพราะเชื้อรา วัย ฮอร์โมน และพฤติกรรมของแต่ละบุคคล แต่นอกเหนือจากปัจจัยดังกล่าวนี้ อีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่ทำให้เกิดรังแคได้ คือ สภาพอากาศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงที่อากาศหนาวเย็น ที่เป็นที่มาของปัญหาผิว และหนังศีรษะแห้ง ในบทความนี้ เราจะพาทุกคนมาหาสาเหตุกันว่าเพราะอะไร หน้าหนาวถึงเป็นฤดูยอดนิยมของการเกิดรังแค และวิธีรับมือกับปัญหารังแคในช่วงหน้าหนาว ว่าต้องทำอย่างไรบ้าง
สาเหตุที่มักเกิดปัญหารังแคในหน้าหนาว
หากพูดถึงช่วงหน้าหนาว นอกจากอากาศเย็นที่หลายคนถวิลหาแล้ว ในด้านผิวกลับเรื่องตรงกันข้าม เนื่องด้วยหน้าหนาวเป็นช่วงที่สภาพอากาศมีความชื้นค่อนข้างต่ำ ทำให้หลายคนมักเผชิญกับปัญหาผิวแห้ง ไม่ว่าจะเป็นผิวกาย และผิวหนังศีรษะ โดยเฉพาะหนังศีรษะที่เมื่อแห้งมาก ๆ จะส่งผลให้เกิดเป็นขุยรังแคได้ สำหรับสาเหตุการเกิดรังแคในช่วงหน้าหนาวนั้นสาเหตุหลัก ๆ ได้แก่
- ไม่ค่อยสระผม: อย่างที่กล่าวไปข้างต้นว่า หน้าหนาวนั้นเป็นช่วงที่อากาศมีความชื้นที่ต่ำ ทำให้หนังศีรษะเกิดอาการแห้งแตกเป็นขุย สะเก็ด รังแค โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนที่ไม่ชอบสระผมเป็นประจำ จะส่งผลให้หนังศีรษะขาดความชุ่มชื้น และทำให้เซลล์ผมที่ตายแล้วสะสมเป็นรังแค
- การสระผมด้วยน้ำอุ่น: ช่วงอากาศหนาว หลายคนมักเลือกอาบน้ำด้วยน้ำอุ่น แต่การสระผมด้วยน้ำอุ่นนั้น อาจส่งผลให้เกิดปัญหารังแคมากขึ้นกว่าเดิม เนื่องจากอุณหภูมิที่อุ่นของน้ำ จะทำให้หนังศีรษะแห้งเร็วยิ่งขึ้น ซึ่งความแห้งของหนังศีรษะนี้ก็เป็นที่มาของรังแคนั่นเอง
- ต่อมไขมันอักเสบ: เมื่อหนังศีรษะแห้ง อาการที่ตามมาของหลาย ๆ คน คือความระคายเคือง เนื่องจากต่อมไขมันที่อักเสบ ซึ่งพบบ่อยในบริเวณต่อมไขมัน ส่งผลให้เกิดเป็นเกล็ดสีขาวหรือเหลือง นอกจากบริเวณหนังศีรษะแล้ว ยังสามารถพบอาการนี้ได้ใน คิ้ว หลังหู และปีกจมูก
เชื้อรามาลาสซีเซีย (Malassezia) เป็นเชื้อราที่อาศัยอยู่ในหนังศีรษะของทุกคน โดยเฉพาะคนที่อยู่ในวัยรุ่น วัยผู้ใหญ่ โดยเชื้อรา ชนิดนี้จะดูดซึมน้ำมันบนหนังศีรษะ จนกระตุ้นการผลัดเซลล์บนหนังศีรษะให้เร็วยิ่งขึ้น และทำให้เซลล์ที่ตายแล้วกลายเป็นขุยบนหนังศีรษะ ซึ่งเป็นต้นเหตุของรังแค
วิธีรับมือปัญหารังแคช่วงหน้าหนาว
สำหรับวิธีรับมือปัญหารังแคหน้าหนาว สามารถทำได้ง่าย ๆ ด้วยตัวเอง ซึ่งมี 3 วิธีการดังนี้
1. หลีกเลี่ยงการเกาศีรษะ
เมื่อหนังศีรษะแห้ง อาการที่ตามมาของหลาย ๆ คน คือความระคายเคือง ยิ่งหากใครที่เกาศีรษะบ่อย ๆ จะส่งผลให้รูขุมขนบนหนังศีรษะเกิดการอักเสบ ในกรณีที่อักเสบแบบรุนแรงมาก ๆ อาจทำให้รูขุมขนปิดตัว จนทำให้เส้นผมไม่สามารถงอกขึ้นใหม่ได้ นอกจากนี้การเกาศีรษะมาก ๆ อาจทำให้ขุยรังแคบนหนังศีรษะหลุดลอกออกมา เป็นผงรังแคบนไหล่ ทำให้เสียบุคลิก
ดังนั้น ในช่วงหน้าหนาว หรือช่วงที่หนังศีรษะมีอาการแห้ง และเกิดความระคายเคือง ควรหลีกเลี่ยงที่จะเกาศีรษะ หรือสัมผัสศีรษะที่แรงเกินไป หากรู้สึกว่าอาการคันยังไม่ดีขึ้น ควรสระผมเป็นประจำ เพื่อรักษาอาการระคายเคืองได้อย่างเห็นผล
2. เลือกแชมพูที่มีความอ่อนโยน และแก้ปัญหารังแคโดยตรง
การสระผม คือ หนึ่งในวิธีการแก้ปัญหารังแคที่ดีที่สุด แต่หากเลือกแชมพูรังแคที่ไม่ดี นอกจากจะแก้ปัญหารังแคไม่ได้แล้ว ยังอาจเป็นสาเหตุการเกิดรังแคอีกด้วย ดังนั้น การเลือกแชมพูรังแคที่เหมาะสมจึงเป็นสิ่งที่ควรให้ความสำคัญ สำหรับคนที่มีปัญหาหนังศีรษะแห้ง ควรเลือกแชมพูสูตรอ่อนโยน เพราะสารเคมีในยาสระผมที่มากเกินไป อาจส่งผลเสียให้ผมแห้งมากขึ้นกว่าเดิม ควรเลือกแชมพูที่มีส่วนผสมสมุนไพรที่เพิ่มความชุ่มชื้นให้กับหนังศีรษะ และควรสระผมให้ได้อย่างน้อยสัปดาห์ละ 2-3 ครั้ง เพื่อรักษาความชุ่มชื้นนี้ไว้
3. กินอาหารที่อุดมไปด้วยวิตามินซี วิตามินอี
นอกจากวิธีดูแลตัวเองจากภายนอกแล้ว การดูแลหนังศีรษะจากภายในก็สามารถทำได้เช่นกัน ด้วยการเลือกกินอาหารที่อุดมไปด้วยวิตามินซี วิตามินอี เช่น ผลไม้ที่มีสีเขียว หรือมีรสเปรี้ยว ไม่ว่าจะเป็น ส้ม แอปเปิ้ล ลิ้นจี่ ฝรั่ง เป็นต้น นอกจากนี้อาหารทะเลที่มี โอเมก้า 3 และน้ำมันปลามาก ๆ เช่น ปลาทูน่า ก็เป็นอีกหนึ่งตัวช่วยสำหรับบำรุงหนังศีรษะ โดยสารอาหารเหล่านี้จะช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้ผิวหนังบริเวณหนังศีรษะ ให้มีความแข็งแรง สามารถทนทานต่อทุกปัจจัยภายนอกที่ทำลายผิวหนังบริเวณนี้
สรุป
หน้าหนาวเป็นอีกหนึ่งช่วงฤดูที่เป็นสาเหตุการเกิดรังแคมากที่สุด ดังนั้น ในช่วงหน้าหนาวนี้จึงเป็นช่วงที่ทุกคนต้องดูแลผิวเป็นพิเศษ ซึ่งทุกคนสามารถทำได้ด้วยตัวเองง่าย ๆ ไม่ว่าจะเป็นการปรับจากภายใน และภายนอก เพื่อให้หน้าหนาวนี้ทุกคนสามารถใช้ชีวิตได้อย่างมั่นใจ หมดกังวลเรื่องรังแคกวนใจ หากใครที่มองหาแชมพูที่เป็นมิตรต่อหนังศีรษะ และเส้นผม ขอแนะนำ LAB1 แชมพูขจัดรังแค ที่ผ่านการรับรองจากแพทย์ผิวหนังเฉพาะทาง ว่าใช้แล้วเห็นผลจริง ด้วยเนื้อแชมพูที่เข้มข้น ช่วยทำความสะอาดหนังศีรษะ ลดการเติบโตของแบคทีเรีย และเชื้อรา ใช้แล้วไม่ก่อให้เกิดอาการแพ้ หรือระคายเคือง เป็นมิตรต่อทุกสภาพผิว
สนใจสินค้าจาก VE:LA สามารถอ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับสินค้าได้เลยที่ VE:LA Skincare
หรือรับข่าวสารเพิ่มเติม ผ่านช่องทาง Facebook ได้เลยที่ VE:LA Facebook Page