เชื้อราบนหนังศีรษะรักษา

เชื้อราบนหนังศีรษะ และ โรคสะเก็ดเงิน เป็นโรคที่เกิดทางผิวหนังทั้ง 2 โรค ซึ่งอาจส่งผลต่อหนังศีรษะและทำให้เกิดอาการต่าง ๆ เช่น อาการคัน สะเก็ด และรอยแดง ดูผ่าน ๆ อาจทำให้หลาย ๆ คนเข้าใจผิดได้เนื่องจากเจ้าสองโรคนี้จะมีความคล้ายคลึงกันอยู่บ้าง แต่จริง ๆ แล้วเจ้าสองโรคนี้มีความแตกต่างกัน และที่สำคัญคือมีสาเหตุและการรักษาที่แตกต่างกันด้วย วันนี้เราจะมาแนะนำว่าเชื้อราบนหนังศีรษะรักษาอย่างไร และต่างจากโรคสะเก็ดเงินยังไงกันบ้าง

เป็นเชื้อราบนหนังศีรษะรักษาอย่างไรดี?

เชื้อราบนหนังศีรษะ หรือที่เรียกว่า กลากบริเวณศีรษะ คือการติดเชื้อราที่ส่งผลต่อหนังศีรษะและรูขุมขน เกิดได้จากหลายสาเหตุ แต่มีสาเหตุหลักมาจากเชื้อ Dermatophytes ซึ่งเป็นเชื้อราที่เจริญเติบโตได้ดีในสภาพแวดล้อมที่อบอุ่นและชื้น เชื้อราบนหนังศีรษะ เป็นโรคที่สามารถติดต่อได้ และยังสามารถแพร่กระจายผ่านการสัมผัสโดยตรงจากคนหรือสัตว์ที่ติดเชื้อ หรือผ่านการสัมผัสกับวัตถุที่ปนเปื้อน เช่น หวี แปรง และหมวก เป็นต้น ก่อนที่จะไปพูดถึงว่า เชื้อราบนหนังศีรษะรักษาอย่างไร เราจะมาบอกลักษณะของอาการที่สังเกตุได้อย่างง่าย ๆ กัน

อาการของเชื้อราบนหนังศีรษะ ส่วนใหญ่มักมีอาการคัน สะเก็ด และหนังศีรษะแดง โดยที่บริเวณที่ติดเชื้ออาจเกิดหย่อมเล็ก ๆ บริเวณที่เป็นหัวล้าน นอกจากนี้ในบริเวณที่ติดเชื้อ อาจเกิดอาการลมหลุดร่วงได้ง่าย ในบางกรณี บริเวณที่ได้รับผลกระทบอาจติดเชื้อแบคทีเรีย ทำให้เกิดแผลที่มีหนอง

เชื้อราบนหนังศีรษะรักษาได้หลากหลายวิธี แต่ส่วนมากนิยมรักษาโดยการใช้ยาต้านเชื้อรา ทั้งในรูปแบบของครีมทาหรือยารับประทาน แต่สิ่งสำคัญคือต้องรักษาต่อไปจนกว่าการติดเชื้อจะหายไปอย่างสมบูรณ์เพื่อป้องกันการเกิดซ้ำ นอกจากนี้การที่เชื้อราบนหนังศีรษะรักษาได้อย่างมีประสิทธิภาพดีที่สุดนั้น คือต้องปฏิบัติตามหลักสุขอนามัยที่ดีและหลีกเลี่ยงการใช้ของใช้ส่วนตัวร่วมกัน เช่น หวีและหมวก เพื่อป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อ

ทีนี้เรามารู้จักกับ โรคสะเก็ดเงิน กันบ้าง

โรคสะเก็ดเงิน เป็นโรคที่โดยส่วนใหญ่มักเกิดจากความผิดปกติของภูมิคุ้มกันของร่างกาย และไปกระตุ้นการแบ่งตัวของเซลล์ผิวหนัง โดยมีพื้นฐานมาจากพันธุกรรม ในทางการแพทย์ปัจจุบัน เรายังไม่สามารถสรุปสาเหตุที่แท้จริงของโรคสะเก็ดเงินได้ มีลักษณะเป็นปื้นสีแดง ผิวหนังเป็นขุย ซึ่งอาจมีอาการคัน เจ็บปวด และไม่น่าดู โดยเจ้าสะเก็ดเงินสามารถเกิดได้ทุกส่วนของร่างกาย แต่ส่วนใหญ่มักจะพบที่บริเวณหนังศีรษะ ข้อศอก หัวเข่า และหลังส่วนล่าง ความรุนแรงของอาการอาจแตกต่างกันไป โดยบางคนมีอาการเพียงเล็กน้อย และบางคนมีอาการรุนแรง

การรักษาโรคสะเก็ดเงิน เป็นโรคผิวหนังแบบเรื้อรังและยังไม่สามารถรักษาให้หายขาด แต่เราสามารถควบคุมโรคให้อาการสงบได้ โดยทั่วไปแพทย์จะนิยมให้ผู้ที่มีอาการใช้ยาประเภทเนื้อครีม การบำบัดด้วยแสง (ฉายรังสีอัลตราไวโอเลต) หรือการฉีดยา เพื่อให้ระบบภูมิคุ้มกันมีความแข็งแรงขึ้น นอกจากนี้ สิ่งที่ผู้ป่วยต้องหลีกเลี่ยงคือสิ่งที่จะกระตุ้นที่ทำให้อาการรุนแรงขึ้นได้ เช่น ความเครียด การติดเชื้อ แอลกอฮอล์ และยาบางชนิด

ถึงแม้ว่าเชื้อราบนหนังศีรษะ และโรคสะเก็ดเงิน ดูจากลักษณะอาการแล้วจะมีอาการคล้ายคลึงกัน แต่ต้นตอของการเกิดโรคมีความแตกต่างกัน และเมื่อพูดถึงการรักษา เชื้อราบนหนังศีรษะรักษาได้ง่ายกว่าและมีตัวยาที่สามารถทำให้อาการดีขึ้นและหายขาดได้ ซึ่งจะแตกต่างจากสะเก็ดเงินที่ยังไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ มีเพียงการบรรเทาอาการและควบคุมอาการเท่านั้น และที่สำคัญยิ่งกว่านั้นคือ ผู้ป่วยของโรคใดโรคนึง สามารถเป็น โรคสองโรคนี้สามารถเป็นพร้อมกันได้ในเวลาเดียวกัน ซึ่งจะทำให้การรักษายากมากขึ้นไปอีก

สรุป

สิ่งที่เราแนะนำไปในบทความนี้เป็นเพียงวิธีการแยกระหว่างสองโรคนี้เบื้องต้นเท่านั้น ดังนั้นไม่ว่าคุณจะไม่มีอาการของเชื้อราบนหนังศีรษะ สะเก็ดเงิน หรือเป็นโรคใดโรคหนึ่งอยู่ คำแนะนำคือเมื่อเป็นแล้ว ควรไปปรึกษาแพทย์ผิวหนังโดยตรงเพื่อได้รับการรักษาอย่างถูกวิธี เพราะโรคสะเก็ดเงินและเชื้อราบนหนังศีรษะรักษาได้ ก่อนที่จะเกิดการลุกลามและรักษาได้ยากขึ้น

สนใจสินค้าจาก VE:LA สามารถอ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับสินค้าได้เลยที่ VE:LA Skincare

หรือรับข่าวสารเพิ่มเติม ผ่านช่องทาง Facebook ได้เลยที่ VE:LA Facebook Page