สกินแคร์ลดรอยสิวใครว่าไม่จำเป็นต่อผิวหน้าของเรา ๆ เพราะเมื่อเกิดสิวทีไร ชอบทิ้งรอยแดง ริ้วรอยต่าง ๆ ไว้ให้กวนใจอยู่เสมอ ดังนั้นสาว ๆ ต้องพกสกินแคร์ลดรอยสิวติดตัวไว้ตลอด เพื่อเป็นตัวช่วยในการบำรุงผิวหน้า และช่วยรักษารอยสิว และยังห่างไกลริ้วรอยได้ด้วย ยิ่งโดยเฉพาะคนที่เป็นสิวแล้วนั้น ถือว่าไอเทมสกินแคร์ลดรอยสิวพลาดไม่ได้เด็ดขาดเลย วันนี้เราจะพามาทำความรู้จักกับสกินแคร์ลดรอยสิว และสาเหตุของการเป็นสิวว่าเกิดจากอะไร เพื่อที่จะได้เตรียมรับมือรักษาสิว และดูแลผิวหน้าได้อย่างถูกต้อง
สิวคืออะไร และสิวเกิดจากอะไร
ก่อนจะรู้จักกับสกินแคร์ลดรอยสิวมาทำความรู้จักกับสิวก่อนว่าคืออะไร เพื่อทำความเข้าใจ และเลือกดูแลผิวหน้าได้อย่างถูกต้อง โดยสิว ก็คือ การอักเสบของรูขุมขนที่เกิดจากการที่ผิวหนังมีการสร้างน้ำมันมากเกินไป แล้วมีการรวมตัวกับเซลล์ผิวหนังที่ตายแล้ว หรือไปจับกับสิ่งแปลกปลอม ฝุ่น หรือเครื่องสำอาง ที่อยู่บนผิวหน้า แล้วเข้าไปอุดตันอยู่ใต้ผิวหนัง จึงทำให้เกิดสิวอุดตันขึ้นนั่นเอง โดยจะเป็นตุ่มเล็กๆ มีไตสีขาวอยู่ข้างใน แต่เมื่อมีตัวกระตุ้นอื่น ๆ เพิ่มเช่น แบคทีเรีย เชื้อโรคต่าง ๆ ก็อาจจะทำให้เกิดเป็นสิวอักเสบ ระคายเคือง กลายเป็นสิวอักเสบได้
การเกิดสิวนั้นก็มีมาจากหลายสาเหตุ ทั้งเป็นปัจจัยภายในร่างกาย และภายนอกร่างกาย อย่างฮอร์โมน กรรมพันธุ์ ความมันบนผิวหน้า ความเครียด การเจอแสงแดด ฝุ่น มลภาวะ เครื่องสำอาง รวมไปถึงการรับประทานอาหารก็ยังส่งผลให้เกิดสิวได้เช่นกัน
ใช้สกินแคร์ลดรอยสิวยังไง เพื่อบำรุงผิวหน้าให้ใสห่างไกลสิว
การใช้สกินแคร์ลดรอยสิวอย่างถูกวิธี ก็จะช่วยให้การทำงานของสกินแคร์ลดรอยสิวมีประสิทธิภาพมากขึ้น สามารถลดรอยแดง และริ้วรอยจากสิวได้ด้วย รับรองว่าสาว ๆ มีผิวหน้าที่สวยใส สุขภาพดีขึ้นได้แน่นอน และเราก็ไม่พลาดที่จะมาแนะนะเคล็ดลับการใช้สกินแคร์ลดรอยสิวในชีวิตประจำว่าว่ามีขั้นตอนอย่างไรบ้าง เพื่อป้องกันสิว ผิวใส ออร่า
1. เช็ดทำความสะอาดหน้าด้วยคลีนซิ่ง
การทำความสะอาดผิวหน้าถือเป็นขั้นตอนที่สำคัญ และห้ามขาดจากรูทีนการใช้สกินแคร์ลดรอยสิวเลย เพราะใบหน้าที่เราใช้ชีวิตประจำวันมาผ่านฝุ่น มลภาวะมากมาย จึงต้องเลือกใช้คลีนซิ่งมาช่วยทำความสะอาดผิว ต่อให้คุณไม่ได้แต่งหน้าก็ตาม เพื่อเช็ดเอาเซลล์ที่ตายแล้วอยู่บนผิวหน้าออกไป เป็นการช่วยปกป้องให้ผิวหน้าห่างไกลสิวด้วย
2. เลือกใช้โฟมล้างหน้าที่มีค่า pH ที่เหมาะสม
ผิวจะมีความแตกต่างกันออกไป ซึ่งต้องเลือกโฟมล้างหน้าให้เหมาะสมกับสภาพผิว และมีค่า pH ที่ใกล้เคียงกับผิวมากที่สุด จะได้ช่วยทำความสะอาดผิวได้อย่างดี ไม่แห้งจนเกินไป และการทำความสะอาดผิวหน้าด้วยโฟมล้างหน้าจะทำให้ผิวหน้าสะอาดหมดจดก่อนการใช้สกินแคร์ลดรอยสิวต่อไป
3. ใช้โทนเนอร์มาปรับสภาพผิว
เมื่อทำความสะอาดผิวเรียบร้อย สามารถนำโทนเนอร์มาเช็ดบนใบหน้า เพื่อช่วยดูแลผิวก่อนลงสกินแคร์ลดรอยสิวได้เลย ขั้นตอนนี้เป็นการช่วยกำจัดสิ่งสกปรกบนใบหน้าได้อีกรอบ และยังช่วยปรับสภาพผิวให้มีความพร้อมในการใช้สกินแคร์ลดรอยสิว และโทนเนอร์ยังช่วยเติมเต็มความชุ่มชื้นให้ผิวอีกด้วย
4. เซรั่มบำรุงผิว
เซรั่มบำรุงผิวถือเป็นอีกตัวสำคัญในการช่วยให้รอยสิวลดลงได้อย่างมีประสิทธิภาพ ยิ่งเป็นเซรั่มวิตามินซี ก็ยิ่งจะช่วยให้สกินแคร์ลดรอยสิวตัวอื่น ๆ ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากกว่าเดิม โดยเซรั่มจะมีความเข้มขัน อุดมไปด้วยสารบำรุงผิวหน้า ที่เข้ามาเติมเต็มความนุ่น ชุ่มชื้นให้แก่ผิว และสารสกัดวิตามินซีก็ยังช่วยต้านอนุมูลอิสระ ทำให้ใบหน้ากระจ่างใสขึ้น ปรับสภาพผิวให้ขาวอย่างสม่ำเสมอขึ้น ดังนั้นแล้วหากสาว ๆ สนใจจะลดรอยสิวอย่างมีประสิทธิภาพนอกจากสกินแคร์ลดรอยสิวแบบครีมแล้วก็สามารถเลือกเซรั่มเข้ามาช่วยได้เลย รับรองไม่ผิดหวังแน่นอน
5. สกินแคร์ลดรอยสิวหรือครีมลดรอยสิว
สกินแคร์ลดรอยสิวจะมีทั้งรูปแบบเนื้อครีมและเนื้อเจล โดยเข้ามาช่วยในการลดรอยสิว เข้าไปลดกระบวนการสร้างเม็ดสีเมลานิน ทำให้รอยสิวนั้นจางลง โดยสกินแคร์ลดรอยสิวสามารถใช้ได้แบบเฉพาะจุดที่มีรอยสิวได้โดยตรง สกินแคร์ลดรอยสิวยังสามารถช่วยลดเลือนริ้วรอยหลังจากการเกิดสิวได้ดีอีกด้วย
สรุป
เมื่อสาว ๆ ทราบแล้วว่าขั้นตอนการลงสกินแคร์ต่าง ๆ ต้องใช้อย่างไรบ้างนั้น สามารถช่วยให้การลดรอยสิวของสาว ๆ เป็นไปได้ไม่ยากอย่างแน่นอน ซึ่งการลงสกินแคร์ควรลงตั้งแต่รูปแบบที่มีความเข้มข้นน้อยไปมาก หรือแบบใสไปแบบขุ่น และแบบน้ำใส เหลว ไปจนถึงแบบครีม เพื่อให้สกินแคร์ซึมลงผิวได้ดีนั่นเอง
สนใจสินค้าจาก VE:LA สามารถอ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับสินค้าได้เลยที่ VE:LA Skincare
หรือรับข่าวสารเพิ่มเติม ผ่านช่องทาง Facebook ได้เลยที่ VE:LA Facebook Page